ประมาณปี พ.ศ.2542 ครอบครัวติ๊บแก้ว นำโดย ตาชาญศักดิ์-ยายบุญรอด ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากบริสเบน ไปซิดนีย์ ระยะทาง กว่าพันกิโลเมตร ไปร่วมงานบุญทีศูนย์ซิดนีย์ แห่งแรกอยู่ที่ Burwood จากนั้นก็ได้กลับมาเปิดบ้านกัลยาณมิตรขึ้นที่ Sunshine coast เพื่อประกอบพิธีบูชาข้าวพระ และได้นิมนต์พระอาจารย์จากซิดนีย์ หมุนเวียนมาเป็นประธาน โดยถ่ายทอดเสียงผ่านทางโทรศัพท์ แล้วพัฒนาเป็นถ่ายทอดทางอินเตอร์เน็ต และทางดาวเทียม ต่อมาปี พ.ศ. 2547 กัลยาณมิตร กิจกานต์ ติ๊บแก้ว ได้ย้ายจากซิดนีย์มาอยู่ที่บริสเบน จึงได้มาเปิดบ้านกัลยาณมิตรหลังที่ 2 ขึ้น เป็นบ้านพักอาศัยของกัลยาณมิตร กิจกานต์ ติ๊บแก้ว และ กัลยาณมิตรปิยวรรณ์ ตันสุวรรณ จากนั้นก็ได้ชักชวนผู้มีบุญ เช่น กัลยาณมิตรแวนด้า ชัยธรรม กัลยาณมิตร สุณิสา แคลปพิน รวมตัวกันปฏิบัติธรรม บูชาข้าวพระ และงานบุญสำคัญๆของทางวัดพระธรรมกาย เมื่อหมู่คณะของเราก็เริ่มมากขึ้นจึงได้คิดที่จะสร้างวัดขึ้น แล้วความปรารถนาก็เป็นจริงขึ้น ในปี พ.ศ. 2549 ก็ได้มาพบบ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 73 Lodge Road, Kalinga เป็นบ้าน 2 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีห้องโถงที่ชั้นสอง กว้างขวาง อยู่ในทำเลที่ดีมากๆ เป็นปฏิรูปเทศ มีรถประจำทางผ่านหน้าวัด สองสาย และอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Eagle junction เหมาะสมที่จะทำเป็นวัดมากๆ จึงได้แจ้งข่าวไปที่หลวงน้าสุธัมโม ปัจจุบันคือ พระเดชพระคุณ พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ. (สุธรรม สุธัมโม) ท่านได้เมตตาบอกบุญผู้ใหญ่ใจดี ที่เมืองไทย มี กัลยาณมิตร ชัยยศ เตชะทวีวัฒน์ เจ้าของร้านเท็กซัสสุกี้ เป็นต้น รวบรวมปัจจัยเพียงพอ ที่ Deposit ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินที่กู้ จนสำเร็จเป็นอัศจรรย์ ในเดือนเมษายน ปี พ.ศ.2549

 
เมื่อได้วัดมาแล้ว ก็ได้นิมนต์ พระอาจารย์ มหามนต์ชัย มนฺตาคโม (ปัจจุบันท่านย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดพระธรรมกายเบอร์ลิน ประเทศ เยอรมัน) มาอยู่เป็นประธานสงฆ์ นำหมู่คณะสร้างบารมี โดยจัดให้มีพิธีบูชาข้าวพระ เป็นประจำทุกเดือน พิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่นวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา เป็นต้น ต่อมาช่วงปลายปี 2549 ก็ได้พระอาจารย์พิพัฒนพร กิตฺติสุโภ ปัจจุบันคือ พระครูวรญาณวิเทศ วิ.(พิพัฒนพร กิตฺติสุโภ) มาอยู่ประจำเพิ่มอีก 1รูป ซึ่งต่อมาท่านก็ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายบริสเบน ตั้งแต่นั้นมา จนถึงปัจจุบัน ปี พ.ศ 2564 เป็นเวลากว่า15 ปี